ในประวัติศาสตร์โลก “สเปน” เป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ มีดินแดนและอาณานิคมมากมายครอบคลุมถึงอเมริกาใต้ นับตั้งแต่ขับไล่ชาวมัวร์ที่ครองดินแดนทางใต้มานานเกือบ 800 ปีออกจากพื้นที่ไปได้ สเปนก็ก่อตัวขึ้นเป็นสหอาณาจักรในปี ค.ศ. 1492 ซึ่งในปีเดียวกันนี้ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่ได้รับการสนับสนุนจากสเปนให้เดินทางสำรวจข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปอีกซีกโลกจนพบเกาะบาฮามาสในทะเลแคริเบียน นับเป็นการเริ่มต้นของการแสวงหาอาณานิคมในอเมริกาของยุโรป จนเกิดการค้นพบโลกใหม่ เมื่อสเปนได้เข้ายึดครองประเทศต่างๆ ทางแถบอเมริกาใต้ ทำให้อิทธิพลของศิลปะวัฒนธรรม ภาษาและจิตวิญญาณแห่งชนชาติสเปนได้ถูกส่งต่อไปยังอีกซีกโลก
อุปนิสัยชาวสเปนที่ชัดเจนมากคือ รักการเฉลิมฉลอง หลงใหลในการเต้นรำ และเสียงดนตรี จะเห็นได้จาก “ระบำฟลาเมงโก” สาวกระโปรงสีแดง มีจังหวะการเต้นอันพริ้วไหวควบคู่กับกีตาร์ดนตรีพื้นเมือง กลายมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น การเต้นรำนี้มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นอันดาลูเซียทางตอนใต้ ซึ่งดินแดนแห่งนี้มีเมืองสำคัญที่ล้วนเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม
มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะอาหรับและโลกตะวันตกที่เข้ากันอย่างวิจิตรงดงาม เช่น เมืองเซบียา ศูนย์กลางของแคว้นอันดาลูเซียปัจจุบัน เมืองกอร์โดบาเมืองหลวงเก่า เมืองกรานาด้าศูนย์กลางสุดท้ายของพวกแขกมัวร์ และรอนด้าเมืองต้นกำเนิดกีฬาสู้วัวกระทิง ที่ทำให้สเปนมีสมญานามว่า “เมืองกระทิงดุ” เพราะภาพของมาทาดอร์ถือธงแดงและจังหวะการเคลื่อนไหวฝีเท้าเพื่อสู้วัวกระทิงอันเกรี้ยวกราดคือ สัญลักษณ์ของสเปนที่หลายๆ คนจำได้เป็นอย่างแรก
ยิ่งไปกว่านั้นทางตอนใต้ยังขึ้นชื่อในเรื่องไวน์ชั้นดีมากมาย เอกลักษณ์ที่โดดเด่นได้แก่ Sherry wine ซึ่งไม่ใช่ไวน์จากเชอร์รี่แต่อย่างใด แต่เป็นไวน์องุ่นที่มีการผสมบรั่นดี เพื่อช่วยเพิ่มแอลกอฮอล์มีผลให้ยืดอายุของไวน์ เริ่มผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยที่ยุโรปนิยมล่าอาณานิคมและออกเดินเรือ สเปนต้องขนไวน์ไปกับเรือจำนวนมากและใช้เวลาเดินทางยาวนาน ดังนั้นจึงต้องหาวิธีถนอมไวน์ให้ยาวนานที่สุด เมืองต้นกำเนิด Sherry wine ได้แก่ เจเรซ และคาดิซ
❝ การมาเยือนแคว้นอันดาลูเซียในสเปนตอนใต้ นับเป็นการท่องเที่ยวที่ครบรส ได้เข้าถึงเสน่ห์ความเป็นสเปนอย่างแท้จริง นี่คือหนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวที่ใฝ่ฝัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ❞